De-influencing คือ?
การ “De-influencing” หรือ “การลดอิทธิพลของอินฟลูเอนเซอร์” เป็นกระแสที่กำลังได้รับความนิยมใน Gen Z
ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อพฤติกรรมการบริโภค และวัฒนธรรมสื่อสังคมออนไลน์
-
แนวคิดหลัก
- เป็นการสร้างความตระหนักรู้ให้ผู้บริโภคคิดวิเคราะห์ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า มุ่งลดการบริโภคตามกระแส และการครอบงำจากการตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ และบริโภคอย่างมีวิจารณญาณ Gen Z เริ่มมีความระมัดระวังมากขึ้นในการเลือกซื้อสินค้า โดยไม่ได้ตัดสินใจตามคำแนะนำของอินฟลูเอนเซอร์เพียงอย่างเดียว พวกเขาต้องการข้อมูลที่ถูกต้อง ตรวจสอบได้ และมีความคุ้มค่า
-
วัตถุประสงค์
ส่งเสริมการบริโภคอย่างมีวิจารณญาณ สนับสนุนการบริโภคอย่างยั่งยืน กระแส De-influencing ช่วยส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน แทนที่จะซื้อสินค้าตามกระแส พวกเขาเริ่มให้ความสำคัญกับคุณภาพและความจำเป็นมากขึ้น ลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
-
รูปแบบการนำเสนอ
การวิพากษ์วิจารณ์สินค้าอย่างตรงไปตรงมา การสร้างเนื้อหาแบบวิพากษ์วิจารณ์ อินฟลูเอนเซอร์เริ่มสร้างคอนเทนต์ที่มุ่งเน้นการให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา แนะนำให้ผู้ติดตามคิดวิเคราะห์ก่อนตัดสินใจซื้อ ไม่ให้ซื้อสินค้าที่ไม่มีความจำเป็น แทนที่จะเป็นการโฆษณาสินค้าเพียงอย่างเดียวให้ข้อมูลเชิงลึกและเหตุผลประกอบการตัดสินใจ
-
แพลตฟอร์มหลัก
- TikTok
- YouTube
- Twitter/X
-
กลุ่มเป้าหมายหลัก
- Gen Z วัยรุ่น และคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจการบริโภค
-
จุดประสงค์สูงสุด
- สร้างผู้บริโภคที่มีความรับผิดชอบ การลดค่านิยมการบริโภคเกินความจำเป็น Gen Z เริ่มตระหนักถึงปัญหาการบริโภคนิยม และวัฒนธรรมการช้อปปิ้งแบบฟุ่มเฟือย หันมาให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายอย่างมีเหตุผลมากขึ้น
ถ้า De-influezing เพิ่มขึ้นอย่างมากใน Gen z ส่งผลอย่างไรกับตลาด?
การ De-influencing นี้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้บริโภคที่มีวุฒิภาวะและความตระหนักรู้ของ Gen Z ซึ่งกำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงในวงการสื่อสังคมออนไลน์และอุตสาหกรรมการตลาดอย่างมีนัยสำคัญ
แน่นอนว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมการตลาด แบรนด์และนักการตลาดต้องปรับตัว โดยสร้างความน่าเชื่อถือ และคุณค่าที่แท้จริงให้กับผลิตภัณฑ์ แทนที่จะพึ่งพาเพียงอิทธิพลของอินฟลูเอนเซอร์ การสร้างชุมชนออนไลน์แบบมีวิจารณญาณ เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูล วิพากษ์วิจารณ์ และให้คำแนะนำระหว่างผู้บริโภคด้วยกันเอง ทำให้การตัดสินใจซื้อมีความรอบคอบมากขึ้น
De-influezing ส่งผลดีต่อการทำเว็บไซต์และ SEO อย่างไร?
-
การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์การสร้างเนื้อหา
- นักการตลาด และเจ้าของเว็บไซต์จำเป็นต้องสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่ามากขึ้น โดยเน้นความน่าเชื่อถือ ข้อมูลเชิงวิเคราะห์ และประโยชน์ที่แท้จริงให้กับผู้อ่าน เว็บไซต์ต้องผลิตคอนเทนต์ที่มีความลึก สร้างภาพลักษณ์ของเว็บไซต์ให้เป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เนื้อหาต้องมีความโปร่งใส ให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา และสามารถตรวจสอบได้และมีที่มาชัดเจน
-
ความสำคัญของรีวิว และคำวิจารณ์แบบมีคุณภาพ
- อัลกอริทึมของเสิร์ชเอนจิน เช่น Google จะให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่มีความน่าเชื่อถือ และมีคุณภาพมากขึ้น รีวิวแบบลึกซึ้ง และวิเคราะห์อย่างมีเหตุผลจะได้รับการจัดอันดับที่ดีกว่าการรีวิวแบบผิวเผิน
-
การเน้นประสบการณ์ผู้ใช้ (User Experience)
- เพิ่มคุณภาพเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ SEO จะให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่สร้างคุณค่า มีความเฉพาะเจาะจง และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้อย่างแท้จริง ทั้งยังช่วยลดการโฆษณาที่รบกวน สร้างการนำทางที่ง่าย และเป็นธรรมชาติ เว็บไซต์ที่มีข้อมูลเชิงลึก ให้ความรู้ และแก้ปัญหาได้จริงจะได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้น เพิ่มโอกาสในการติดอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหา การสร้างเนื้อหาที่แสดงความเชี่ยวชาญ (Expertise) จะมีความสำคัญมากขึ้น
-
การลดความสำคัญของลิงก์อ้างอิงจากอินฟลูเอนเซอร์
- ลิงก์ที่มาจากอินฟลูเอนเซอร์จะมีน้ำหนักน้อยลง หากไม่มีคุณภาพหรือความน่าเชื่อถือ การได้ backlink จากเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาคุณภาพ และความเชี่ยวชาญจะมีความสำคัญมากขึ้น
-
การสร้างชุมชนผู้อ่านที่มีคุณภาพ
- ดึงดูดผู้อ่านที่ต้องการข้อมูลเชิงลึก สร้างความผูกพันกับผู้อ่านด้วยเนื้อหาที่มีคุณภาพ เปิดโอกาสให้มีส่วนร่วม การแสดงความคิดเห็น และการแชร์เนื้อหา สร้างความไว้วางใจระหว่างเว็บไซต์กับผู้อ่าน
-
การปรับตัวด้านคีย์เวิร์ด
- การใช้คีย์เวิร์ดจะต้องมีความเป็นธรรมชาติ และสอดคล้องกับเนื้อหามากขึ้น ต้องครอบคลุมหัวข้อ และการให้ข้อมูลที่ครบถ้วนสำคัญกว่าการใส่คีย์เวิร์ดซ้ำๆ
-
การลดต้นทุนการตลาด
- ลดค่าใช้จ่ายในการจ้างอินฟลูเอนเซอร์ เน้นการสร้างเนื้อหาด้วยตนเอง เพิ่มประสิทธิภาพการตลาดแบบออร์แกนิก
-
การตอบสนองผู้บริโภคสมัยใหม่
- เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง สร้างเนื้อหาที่ตรงกับความคาดหวังของ Gen Z แสดงความใส่ใจต่อประเด็นทางสังคม และสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
โดยสรุป การ De-influencing ส่งผลให้การทำเว็บไซต์และ SEO มุ่งเน้นไปที่คุณภาพของเนื้อหา การพัฒนาเว็บไซต์ที่มีคุณค่า ความน่าเชื่อถือ และประโยชน์ที่แท้จริงให้กับผู้ใช้ มากกว่าการพึ่งพาอิทธิพลของอินฟลูเอนเซอร์หรือการทำการตลาดแบบเดิมๆ
