คุณภาพของเนื้อหา ถูกยกให้เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่จะแสดงผลในระดับบนโดยเครื่องมือค้นหา แล้วเคยสงสัยหรือไม่ว่า “ผู้ให้บริการเว็บไซต์หรือผู้สร้างเนื้อหาใช้อะไรเป็นมาตรฐานเพื่อประเมินว่าเนื้อหาใดคือเนื้อหาคุณภาพสูง?”
เราจะมาพิจารณากันว่าบริษัทควรทำอย่างไรเพื่อทำให้เว็บไซต์บริษัทได้รับการยอมรับว่ามี “คุณภาพสูง” บนเครื่องมือค้นหาโดยยึดตาม “แนวทางการประเมินคุณภาพการค้นหา” ของ Google
แนวทางการประเมินคุณภาพการค้นหาของ Google
Google ได้กำหนดมาตรฐานสำหรับผู้ประเมินคุณภาพการค้นหา เพื่อประเมินการทำงานของเครื่องมือค้นหาของ Google อย่างเหมาะสม
แนวทางนี้จะใช้โดยเจ้าหน้าที่ภายในของ Google และผู้ประเมินภายนอกเป็นหลัก มีประโยชน์ในการปรับปรุงการทำงานของเครื่องมือค้นหา ผู้ประเมินคุณภาพการค้นหาจะทำการประเมินหน้าเว็บต่างๆด้วยสายตามนุษย์ และใช้ผลลัพธ์นั้นปรับปรุงอัลกอริทึมของ Google แม้ว่าการประเมินเพียงอย่างเดียวจะไม่ส่งผลต่อการจัดอันดับการค้นหาโดยตรง แต่ข้อมูลการประเมินจำนวนมากก็ถูกนำมาใช้ในการปรับปรุงเครื่องมือค้นหา
สามารถอ่านเอกสาร PDF ฉบับทางการได้ที่นี่ (ฉบับล่าสุดวันที่ 3 มีนาคม 2023: อัปเดตวันที่ 16 พฤศจิกายน 2023)
Search Quality Rater Program Guidelines
ผู้จัดทำเว็บไซต์หรือผู้สร้างเนื้อหายังสามารถปรับปรุงคุณภาพเนื้อหาเว็บไซต์หรือหน้าเว็บของตนเองที่ต้องการเผยแพร่ได้ ด้วยการทำความเข้าใจและนำแนวทางเหล่านี้ไปปรับใช้
แนวทางนี้ จากมุมมองของการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา (SEO) ยังมีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับผู้ให้บริการเว็บไซต์หรือผู้สร้างเนื้อหา และด้วยการสร้างเนื้อหาตามแนวทางดังกล่าวจะสามารถปรับปรุงอันดับในผลการค้นหาได้
พื้นฐานของแนวทางการประเมินคุณภาพการค้นหา
เครื่องมือค้นหาของ Google มีจุดประสงค์ที่จะค้นหาคำตอบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคำถามหรือการค้นหาของผู้ใช้จากหน้าเว็บจำนวนมาก แนวทางการประเมินคุณภาพการค้นหาจะเป็นตัวให้เกณฑ์การประเมินคุณภาพของหน้าเว็บในขั้นตอนนี้
แนวทางนี้ได้รับการอัพเดตเป็นประจำและจะถูกอ้างอิงต่อเนื่อง ในกรณี Google ได้เปลี่ยนแปลงอัลกอริธึมการค้นหาและเพื่อรักษาและปรับปรุงคุณภาพของผลการค้นหา วัตถุประสงค์หลักคือการให้เครื่องมือค้นหาให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ถูกต้อง และเชื่อถือได้มากที่สุดแก่ผู้ใช้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้เครื่องมือค้นหาเพื่อค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้รวดเร็วและง่ายดาย
Google จะทำการประเมินโดย “ผู้ประเมินคุณภาพการค้นหา” ที่ได้รับการฝึกอบรมตามแนวทางเหล่านี้ ผู้ประเมินคุณภาพการค้นหาจะประเมินจากหลายๆด้าน เช่น ความเหมาะสมของหน้าเว็บสำหรับคำค้นหาเฉพาะ คุณภาพของข้อมูล และความน่าเชื่อถือของหน้าเว็บไซต์ กระบวนการนี้ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการรักษาคุณภาพของผลการค้นหา นอกจากนี้ จากการอ้างอิงโดยวิศวกรของ Google ก็จะทำการปรับปรุงอัลกอริธึมการค้นหาตามฟีดแบคจากผู้ประเมินคุณภาพการค้นหาอีกด้วย
E-E-A-T (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) คืออะไร
E-E-A-T (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) เป็นแนวคิดหลักของแนวทาง และเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญในการวัดคุณภาพข้อมูลที่หน้าเว็บเผยแพร่
นอกจากองค์ประกอบ 3 อย่าง ได้แก่ ความเชี่ยวชาญ (Expertise) ความมีอำนาจ (Authoritativeness) และความน่าเชื่อถือ (Trustworthiness) แล้ว ยังได้เพิ่มองค์ประกอบใหม่ “ประสบการณ์” (Experience) ในปี 2022 แต่ละองค์ประกอบเป็นตัวบ่งชี้สำคัญในการพิจารณาว่าหน้าเว็บเป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้หรือไม่
ความเชี่ยวชาญ (Expertise)
ความเชี่ยวชาญ หมายถึง ผู้สร้างเนื้อหาหรือหน้าเว็บที่มีความรู้เชิงลึกหรือทักษะเกี่ยวกับหัวข้อเฉพาะ เช่น ถ้าเป็นเว็บไซต์ให้คำแนะนำเกี่ยวกับสุขภาพ เนื้อหาที่เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์หรือนักโภชนาการจะถือว่ามีความเชี่ยวชาญสูง
ความมีอำนาจ (Authoritativeness)
ความมีอำนาจ หมายถึง หน้าเว็บหรือผู้สร้างหน้าเว็บนั้นได้รับการยอมรับและเคารพอย่างกว้างขวางในสาขานั้นๆ สิ่งนี้มักแสดงให้เห็นผ่านการอ้างอิงหรือคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้อื่นๆ เช่น ถ้าหน้าเว็บที่มีการอ้างอิงโดยเว็บไซต์อื่นๆที่เชื่อถือได้เป็นจำนวนมาก หน้าเว็บนั้นก็จะถือว่ามีอำนาจสูง
ความน่าเชื่อถือ (Trustworthiness)
ความน่าเชื่อถือ หมายถึง หน้าเว็บที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ สิ่งต่างๆ เช่น เว็บไซต์ใช้การเชื่อมต่อที่ปลอดภัย (ได้รับการปกป้องโดย HTTPS) หรือไม่ ให้แหล่งข้อมูลที่ชัดเจนโปร่งใสหรือไม่ สิ่งนี้ก็จะส่งผลต่อคะแนนความน่าเชื่อถือ
ประสบการณ์ (Experience)
ประสบการณ์ จะแสดงถึงการที่ผู้สร้างเนื้อหามีประสบการณ์จริงกับเนื้อหาดังกล่าว ซึ่งสิ่งนี้จะหมายถึงการมอบคุณค่าที่เป็นรูปธรรมและใช้งานได้จริงให้กับผู้อ่านผ่านประสบการณ์และความรู้เชิงปฏิบัติส่วนตัว เช่น บล็อกที่แสดงสูตรอาหารที่เป็นเมนูเฉพาะ ก็จะมีคุณค่ามากกว่าหากเขียนโดยคนที่ทำอาหารจานนั้นจริงๆ
ผู้ให้บริการเว็บไซต์และผู้สร้างเนื้อหาควรอ่านอะไรจากแนวทางนี้
ถ้าเช่นนั้น ในการสร้างและดำเนินงานเว็บไซต์รวมถึงเนื้อหาเว็บไซต์ ควรอ่านอะไรจากแนวทางและควรนำไปใช้อย่างไร
แนวทางการให้คะแนนคุณภาพการค้นหาของ Google เป็นการชี้ทางที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ การเข้าใจอย่างถ่องแท้และการแก้ปัญหาที่ก้าวข้ามเทคนิคในการปรับปรุงการจัดอันดับในเครื่องมือค้นหา การมอบคุณค่าที่เหมาะสมให้กับผู้ใช้ และสร้างความไว้วางใจ
การเข้าถึงใจกลางของผู้ใช้
เนื้อหา ต้องมีเป้าหมายที่จะตอบสนองเจตนาการค้นหาของผู้ใช้และแก้ไขปัญหาได้
การเข้าใจว่าผู้ใช้กำลังต้องการอะไร และมอบเนื้อหาที่ตอบสนองในเรื่องนั้นเป็นเรื่องสำคัญ เช่น ถ้าผู้ใช้ค้นหา “สูตรอาหารเช้าเพื่อสุขภาพ” แปลว่าผู้ใช้ต้องการสูตรอาหารที่ทำง่ายและมีคุณค่าทางโภชนาการที่พอดี นอกจากนี้ การเพิ่มวีดิโอหรือรูปภาพที่แสดงวิธีการทำอาหารหรือคุณค่าทางโภชนาการของสูตรอาหารนั้น ก็จะตอบสนองความต้องการผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น
การนำ E-E-A-T มาปฏิบัติจริง
เพิ่มมูลค่าสูงสุดสำหรับผู้ใช้ ด้วยการนำความเชี่ยวชาญ ความมีอำนาจ ความน่าเชื่อถือ และประสบการณ์มาใช้กับเนื้อหา
ความโปร่งใสและความซื่อสัตย์
การทำให้มีความชัดเจนว่าใครเป็นผู้สร้างเนื้อหาและแหล่งที่มาข้อมูลคืออะไร จะทำให้ผู้ใช้เชื่อถือเนื้อหาได้ หากเป็นเนื้อหาที่ได้รับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์ การทำให้มีความโปร่งใสก็เป็นเรื่องสำคัญ ทำให้ผู้ใช้เชื่อถือข้อมูลได้ง่ายขึ้น
การออกแบบที่คำนึงถึงอุปกรณ์เคลื่อนที่
การเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์โดยคำนึงถึงประสบการณ์ผู้ใช้มือถือ ผู้ใช้จำนวนมากใช้สมาร์ทโฟนดูเว็บไซต์ จึงจำเป็นต้องออกแบบเป็น responsive และเพิ่มความเร็วในการโหลดหน้าเว็บเพื่อให้ดูเว็บไซต์ได้อย่างสะดวกบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ นอกจากนี้ยังต้องใส่ใจเรื่องการออกแบบ UI ที่เหมาะกับการใช้งานแบบสัมผัสด้วย
สร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย
ผู้ใช้ต่างก็ต้องการปกป้องข้อมูลและสภาพแวดล้อมการท่องเว็บที่ปลอดภัย จึงต้องคอยอัพเดทการตรวจสอบความปลอดภัยเป็นประจำเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์ ปกป้องข้อมูลที่รวบรวมจากผู้ใช้อย่างเหมาะสมและคอยป้องกันข้อมูลจากการเข้าถึงหรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงใช้นโยบายรหัสผ่านที่เข้มงวดและการใช้ปลั๊กอินความปลอดภัย
สิ่งที่ผู้ให้บริการเว็บไซต์และผู้สร้างเนื้อหาควรนำมาจากแนวทางการประเมินคุณภาพการค้นหาของ Google คือการที่เว็บไซต์และเนื้อหา จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับการใช้ชีวิตและความต้องการข้อมูลของผู้ใช้อย่างไร
การตั้งเป้าหมายที่จะปรับปรุงการประเมินเครื่องมือค้นหาและเข้าถึงผู้ใช้ได้มากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยการมุ่งที่จะนำเสนอเนื้อหาที่เกินความคาดหวังของผู้ใช้ การจัดการเว็บไซต์และการสร้างเนื้อหานั้นนอกจากด้านเทคนิคแล้ว การออกแบบและการสร้างที่เน้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ไว้วางใจกับผู้ใช้ยังเป็นสิ่งจำเป็นอีกด้วย